EEAT คือหัวใจของ SEO ยุคใหม่ที่ไม่ควรมองข้าม
เราอาจเคยได้ยินคำว่า SEO = ทำคีย์เวิร์ดดี ๆ, มี Backlink, ทำเว็บให้โหลดเร็ว ซึ่งก็ยังสำคัญอยู่ แต่ในยุคนี้ Google ให้ความสำคัญกับเรื่อง “คุณภาพของเนื้อหา” มากกว่าเดิม โดยเฉพาะหลักการที่เรียกว่า E-E-A-T
หลายคนยังสับสนว่า EEAT คืออะไร แล้วเกี่ยวอะไรกับอันดับใน Google บ้าง บทความนี้จะพาเรามาเข้าใจแบบชัด ๆ พร้อมแนวทางนำไปใช้จริงในเว็บหรือบทความของเรา
EEAT คืออะไร?
EEAT ย่อมาจาก:
- E – Experience (ประสบการณ์จริง)
- E – Expertise (ความเชี่ยวชาญ)
- A – Authoritativeness (ความน่าเชื่อถือ)
- T – Trustworthiness (ความไว้วางใจ)
นี่คือหลักที่ Google ใช้ประเมินว่าเนื้อหานั้น ควรแสดงให้ผู้ใช้เห็นหรือไม่ และโดยเฉพาะในกลุ่มที่เรียกว่า YMYL (Your Money or Your Life) เช่น สุขภาพ การเงิน กฎหมาย ฯลฯ ยิ่งต้องเน้น EEAT เป็นพิเศษ
ทำไม Google ต้องใช้ EEAT?
เพราะ Google อยากให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่ ถูกต้อง ปลอดภัย และน่าเชื่อถือ
ลองนึกภาพว่าเราค้นหาวิธีรักษาโรค หรือเรื่องภาษี แล้วเจอบทความมั่ว ๆ ที่ไม่มีแหล่งที่มาชัดเจน แบบนั้นอันตรายใช่มั้ย?
Google เลยต้องใช้หลัก EEAT เพื่อจัดอันดับเว็บที่มีคุณภาพจริง ไม่ใช่แค่เขียนดีแต่ไม่มีความรู้จริง
อธิบายแต่ละตัวใน EEAT แบบเข้าใจง่าย
🧭 Experience – ประสบการณ์จริง
คือเนื้อหาที่เขียนจากมุมมองของ “คนที่เคยเจอ เคยทำ เคยลองจริง” เช่น รีวิวสินค้า, แชร์ประสบการณ์ใช้บริการ, หรือเล่ากระบวนการที่เคยผ่านมาด้วยตัวเอง
Google ชอบ:
- บทความที่มีคำว่า “เราเคยลอง…”, “จากประสบการณ์ตรงของเรา…”
- มีรูปถ่ายหรือวิดีโอที่ถ่ายเองจากหน้างาน
📘 Expertise – ความเชี่ยวชาญ
คือเนื้อหาที่เขียนโดยหรืออ้างอิง “ผู้มีความรู้จริง” ในเรื่องนั้น เช่น นักบัญชีพูดเรื่องภาษี, นักโภชนาการแนะนำอาหาร
Google ชอบ:
- เขียนโดยผู้ที่มีอาชีพหรือคุณสมบัติในสายนั้น
- มีประวัติคนเขียนหรือหน้า Author Bio ที่บอกความเชี่ยวชาญ
🏛 Authoritativeness – ความน่าเชื่อถือ
คือชื่อเสียงหรือความเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง เช่น เว็บไซต์มีคนอ้างอิง, สื่อหลักนำไปพูดถึง หรือได้รับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
Google ชอบ:
- เว็บมี Backlink จากเว็บดัง
- ถูกแชร์บ่อยใน Social หรือ Forum
- มีชื่อเสียงในวงการนั้น ๆ
🤝 Trustworthiness – ความไว้วางใจ
คือความปลอดภัย ความถูกต้อง และความโปร่งใสของเว็บไซต์ เช่น มีนโยบายความเป็นส่วนตัว, https, ข้อมูลติดต่อชัดเจน
Google ชอบ:
- เว็บมี HTTPS
- มีหน้า About, Contact, Privacy Policy
- เขียนเนื้อหาตรงไปตรงมา ไม่ Clickbait
EEAT สำคัญกับใครบ้าง?
จริง ๆ แล้ว EEAT สำคัญกับทุกเว็บ แต่จะ “หนักเป็นพิเศษ” กับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ YMYL เช่น:
- เว็บไซต์สุขภาพ การแพทย์
- เว็บการเงิน การลงทุน
- เว็บเกี่ยวกับกฎหมาย
- เว็บที่ขายของออนไลน์ (ต้องน่าเชื่อถือ)
- เว็บให้คำปรึกษา หรือแนะนำแนวทางชีวิต
ถ้าเว็บเราตรงกับพวกนี้ แล้วไม่มี EEAT เลย Google อาจไม่ให้แสดงผลในอันดับต้น ๆ เลยก็ได้
แล้วเราจะทำ EEAT ให้ดีได้ยังไง?
✅ เพิ่มหน้า “เกี่ยวกับเรา” หรือ “ทีมงาน”
บอกว่าเราเป็นใคร มีความเชี่ยวชาญด้านไหน ทำอะไรมาก่อน
✅ ใส่ข้อมูล “ผู้เขียน” ให้ชัดเจน
แนะนำผู้เขียนแบบมีภาพ, ชื่อ, ตำแหน่ง หรือประสบการณ์ในเรื่องนั้น
✅ เขียนจากประสบการณ์ตรง
ถ้าเล่าอะไรจากที่เราเคยทำ เคยใช้ เคยเรียน จะได้ทั้ง Experience และ Expertise ในบทความเดียวเลย
✅ อ้างอิงแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
ใส่ลิงก์อ้างอิงแหล่งที่มาชัดเจน ไม่เอาข้อมูลลอย ๆ มาเล่าเอง
✅ ปรับโครงสร้างเว็บให้น่าเชื่อถือ
- ติดตั้ง HTTPS
- มีหน้า Privacy Policy / Contact / Terms
- ใช้รูปจริงของทีม ไม่ใช้ stock photos ล้วน ๆ
ตัวอย่างเว็บที่ EEAT ชัดเจน
- Healthline – แต่ละบทความมีชื่อผู้เขียน + ตรวจสอบโดยแพทย์
- Investopedia – มีหน้าแนะนำผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินของแต่ละบทความ
- Verywell Mind – เขียนโดยนักจิตวิทยา มีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลทุกบทความ
EEAT กับ AI Content: ใช้ AI เขียนบทความได้ไหม?
ใช้ได้ครับ แต่ต้องตรวจสอบให้ดีว่า:
- ข้อมูลถูกต้อง
- มีการเพิ่มเติมประสบการณ์จริง
- มีแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้
- และ ใส่ชื่อผู้เขียนที่มีตัวตนจริง ไม่ใช่เขียนโดย Anonymous
AI ช่วยร่างได้ดี แต่เราต้องเป็นคนให้ “ตัวตนและความเชื่อถือ” ลงไปในเนื้อหา
สรุป
ถ้าจะให้เว็บเราอยู่รอดในยุค AI และการจัดอันดับที่เข้มข้นขึ้น ต้องเข้าใจว่า SEO ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคอีกต่อไป แต่คือการ สร้างความน่าเชื่อถือในสายตาของ Google และผู้ใช้
หลัก EEAT คือสิ่งที่เราทุกคนควรรู้และลงมือทำทันที เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่อง SEO แต่มันคือรากฐานของ “เว็บคุณภาพ” ที่ Google อยากแนะนำให้ผู้ใช้เห็น
ยิ่งเรามีประสบการณ์จริง + ความรู้จริง + โปร่งใส = โอกาสขึ้นอันดับแรกก็ยิ่งมากขึ้น
ถ้ายังไม่เคยเริ่ม แนะนำให้เพิ่มหน้า “เกี่ยวกับเรา” ก่อนเลย แล้วค่อย ๆ ขยาย EEAT ในบทความและโครงสร้างเว็บครับ